‘‘สาธู’’ติ โส ปฏิสฺสุตฺวา, คนฺตฺวาน หตฺถินิํ ปุรํ;
อโวจ ตสฺสา มาตรํ –
‘ธีตา จ เต มยา ทิฏฺฐา, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’ฯ
[474]
‘‘สา มํ ตตฺถ สมาทเปสิ, ( ) [(คนฺตฺวาน หตฺถินิํ ปุรํ) (สฺยา. ก.)] วชฺเชสิ มยฺห มาตรํ;
‘ธีตา จ เต มยา ทิฏฺฐา, ทุคฺคตา ยมโลกิกา;
ปาปกมฺมํ กริตฺวาน, เปตโลกํ อิโต คตา’ฯ
[475]
‘‘อตฺถิ จ เม เอตฺถ นิกฺขิตฺตํ, อนกฺขาตญฺจ ตํ มยา;
จตฺตาริสตสหสฺสานิ, ปลฺลงฺกสฺส จ เหฏฺฐโตฯ
[476]
‘‘ตโต เม ทานํ ททตุ, ตสฺสา จ โหตุ ชีวิกา;
ทานํ ทตฺวา จ เม มาตา, ทกฺขิณํ อนุทิจฺฉตุ ( ) [(ตโต ตุวํ ทานํ เทหิ, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสี) (ก.)];
‘ตทา สา สุขิตา เหสฺสํ, สพฺพกามสมิทฺธินี’’’ติฯ
[477]
ตโต หิ สา ทานมทา, ตสฺสา ทกฺขิณมาทิสี;
เปตี จ สุขิตา อาสิ, ตสฺสา จาสิ สุชีวิกาติฯ
เสริณีเปตวตฺถุ ฉฏฺฐํฯ
7. มิคลุทฺทกเปตวตฺถุ
[478]
‘‘นรนาริปุรกฺขโต ยุวา, รชนีเยหิ กามคุเณหิ [กาเมหิ (ก.)] โสภสิ;
ทิวสํ อนุโภสิ การณํ, กิมกาสิ ปุริมาย ชาติยา’’ติฯ
[479]
‘‘อหํ ราชคเห รมฺเม, รมณีเย คิริพฺพเช;
มิคลุทฺโท ปุเร อาสิํ, โลหิตปาณิ ทารุโณฯ
[480]
‘‘อวิโรธกเรสุ ปาณิสุ, ปุถุสตฺเตสุ ปทุฏฺฐมานโส;
วิจริํ อติทารุโณ สทา [ตทา (สี.)], ปรหิํสาย รโต อสญฺญโตฯ
[481]